โรคเชื้อราที่เท้า ป้องกันได้
ในช่วงหน้าฝนแบบนี้ ก็มักจะมีโรคที่มาพร้อมกับฝนจำนวนไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็นไข้หวัด ไข้เลือดออก RSV หรือแม้แต่โรคที่สร้างภาระให้กับเท้าของเราอย่าง โรคเชื้อราที่เท้า มองเผิน ๆ ฟังดูเหมือนเป็นโรคที่ไม่ได้ร้ายแรงอะไร แต่ก็สร้างความรำคาญใจให้ผู้ที่เป็นไม่น้อย คงไม่มีใครอยากเป็นโรคนี้แน่นอน ถ้าหากคุณไม่อยากเป็นโรคเชื้อราที่เท้า เรามาป้องกันโรคนี้กันค่ะ ทำได้ง่าย ๆ ใคร ๆ ก็ทำได้
โรคเชื้อราที่เท้าเกิดจากอะไร
โรคเชื้อราที่เท้า หรือชื่อเล่นที่เรารู้จักกันดี “โรคน้ำกัดเท้า” เป็นภาวะที่เกิดจากการระคายเคืองของผิวหนังที่เท้า ซึ่งมักมาจากการแช่น้ำสกปรกเป็นเวลานาน หรือมีความชื้นที่เท้าตลอดเวลาเนื่องจากน้ำท่วมขัง เดินย่ำน้ำ
บ่อย ๆในช่วงฤดูฝน การระคายเคืองดังกล่าวนี้ หากเราไม่รักษาความสะอาดและทำผิวหนังให้แห้งอยู่เสมอ ก็จะทำให้เท้าเปื่อย ลอก แดง แสบและคัน จนเกิดแผลที่เท้า ซึ่งอาจนำไปสู่การติดเชื้อในที่สุด
อาการของโรคเชื้อราที่เท้า
โดยทั่วไปเราจะแบ่งอาการของโรคออกเป็น 2 ระยะด้วยกัน กล่าวคือ
ระยะที่ 1 ระยะอักเสบระคายเคือง
ระยะนี้จะทำให้ผิวหนังที่เท้ามีอาการแดง ลอก เนื่องจากการระคายเคือง ซึ่งบางคนอาจจะมีอาการเท้าเปื่อย แสบและคันได้ แต่จะไม่พบการติดเชื้อในระยะนี้ แต่หากใครแช่เท้าในน้ำสกปรกเป็นเวลานาน ก็สามารถเกิดการติดเชื้อได้ง่ายขึ้นเช่นกัน โดยเฉพาะการติดเชื้อที่เกิดจากการเกาหรือถูบริเวณรอบ ๆ แผลเพื่อบรรเทาอาการคัน
ระยะที่ 2 ระยะติดเชื้อแทรกซ้อน
อาการติดเชื้อมักเกิดขึ้นจากผิวหนังที่เท้าชื้น เปื่อย และหลุดออก ซึ่งเชื้อที่พบได้บ่อยคือ เชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อรา โดยหากติดเชื้อแบคทีเรียจะมีอาการอักเสบ บวมแดง เป็นหนองและปวด อาการจะเกิดขึ้นเร็ว ในขณะที่หากติดเชื้อรา มักจะเกิดขึ้นตามซอกนิ้ว มีอาการคัน ผิวลอกเป็นขุย ๆ เป็นสะเกิดหรือเป็นปื้นขาว ๆ สามารถลอกเป็นแผ่นได้ อีกทั้งการติดเชื้อราจะเกิดเฉพาะกับคนที่มีความชื้นสะสมที่เท้าเป็นเวลานาน ไม่ได้เกิดขึ้นกับทุกคนที่เป็นโรคนี้ นอกจากนี้ คนที่เป็นจะเท้ามีกลิ่นเหม็นเพราะเกิดจากการหมักหมมของน้ำเหลือและการติดเชื้อโรคนั่นเอง
การป้องกันโรคเชื้อราที่เท้าที่ใคร ๆ ก็ทำได้
อย่างที่กล่าวไปในตอนต้นว่า โรคนี้เป็นโรคที่ไม่มีใครอยากเป็น แน่นอนว่าถ้าเราไม่อยากเป็น มันจะดีกว่าไหม
ถ้าเราจะป้องกันมันได้ตั้งแต่แรก แทนที่จะมารักษาทีหลัง ซึ่งการป้องกันก็ง่าย ๆ เลยค่ะ เรานำวิธีป้องกันมาฝากกันแล้ว ดังนี้
- หลีกเลี่ยงให้เท้าสัมผัสกับน้ำสกปรก ควรป้องกันโรคเชื้อราที่เท้าโดยการใส่รองเท้าสุขภาพที่กันน้ำ ทุกครั้งที่ต้องเดินย่ำน้ำ หากน้ำที่ท่วมขังมีระดับที่สูงกว่าขอบรองเท้า และอาจจะใช้หนังยางรัดอีกทีเพื่อกันไม่ให้น้ำเข้า
- ทาวาสลีนที่เท้า โดยทาวาสลีนไปตามซอกนิ้วต่าง ๆ ง่ามเท้า เพื่อลดโอกาสที่น้ำจะซึมผ่านผิวหนังและเกิดการอับชื้นหรือผิวหนังเปื่อยจนเกิดเป็นโรคเชื้อราที่เท้าตามมา
- ทำความสะอาดเท้าให้สะอาดอยู่เสมอ หากไม่สามารถหลีกเลี่ยงการเดินย่ำน้ำสกปรกได้ หลังจากนั้นควรรีบล้างเท้าด้วยน้ำสะอาดและสบู่ หรือแช่เท้าด้วยน้ำด่างทับทิม โดยใช้เกล็ดด่างทับทิมสัก 2-3 เกล็ด นำมาละลายน้ำจนเกิดเป็นสารละลายสีชมพูจาง ๆ จากนั้นแช่เท้าสักประมาณ 15 นาที แล้วจึงเช็ดเท้าให้แห้ง
- หมั่นสังเกตเท้าของเราบ่อย ๆ หากพบว่ามีบาดแผลที่เท้า ควรเลี่ยงที่จะเดินย่ำไปในน้ำสกปรก เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้แผลสัมผัสกับเชื้อโรคในน้ำ และอย่าลืมที่จะใส่ยาไอโอดีน แต่หากพบว่าแผลมีอาการที่รุนแรงจนผิดไปจากเดิม ควรรีบไปพบแพทย์ให้เร็วที่สุด
- โรยแป้งฝุ่นโรยตัวที่ง่ามเท้า หลังจากที่เช็ดเท้าจนแห้ง ก็อย่าลืมที่จะโรยแป้งฝุ่นที่ง่ามเท้าเพื่อให้แป้งดูดความชื้นออกจากเท้า เท้าจะแห้ง ไม่อับชื้นนั่นเอง
สิ่งสำคัญที่สุดที่จะห่างไกลจากโรคเชื้อราที่เท้า คือการรู้จักป้องกันเท้าของเราจากสิ่งสกปรกต่าง ๆ ที่มากจากน้ำท่วมขัง ควรหลีกเลี่ยงที่สัมผัสให้ได้มากที่สุด เพียงเท่านี้เราก็สามารถดูแลรักษาเท้าของเราให้สุขภาพดีได้แล้วค่ะ
สอบถามรายละเอียดโปรโมชั่น
แอดLine@ ของ Talon ได้ที่นี่เลยค่ะ
👉 https://line.me/R/ti/p/%40ool5177g
foot clinic เปิดบริการ จันทร์-เสาร์ 8.30-17.30 น. Tel 02-896-3800