ตรวจสุขภาพเท้า ต้องตรวจอะไรบ้าง

ตรวจสุขภาพเท้า ต้องตรวจอะไรบ้าง

ตรวจสุขภาพเท้า ต้องตรวจอะไรบ้าง? คู่มือเช็กเท้าแบบละเอียดเพื่อป้องกันปัญหาเรื้อรังในอนาคต

หลายคนคุ้นเคยกับการตรวจสุขภาพประจำปี—ตรวจเลือด ตรวจสายตา ตรวจความดัน แต่มีส่วนหนึ่งของร่างกายที่เรามักมองข้ามที่สุด ทั้งที่ต้องใช้งานทุกวัน และรับน้ำหนักร่างกายทั้งหมดอยู่ตลอดเวลา นั่นคือ “เท้า”

ผู้เชี่ยวชาญด้านกระดูกและข้อกล่าวไว้ว่า มากกว่า 70% ของอาการปวดเข่า ปวดหลัง ส้นเท้าอักเสบ หรือแม้แต่ปัญหานิ้วเท้าผิดรูป ล้วนมีต้นกำเนิดจาก “เท้าที่ทำงานผิดปกติ” โดยที่เจ้าของเท้าไม่เคยรู้ตัวเลยว่ามีสัญญาณเตือน

คำถามที่พบได้บ่อยคือ “ตรวจสุขภาพเท้า ต้องตรวจอะไรบ้าง?” เพราะการตรวจเท้าไม่ได้ใช่แค่การมองผิวเผิน หรือเช็กความสะอาด แต่เป็นการประเมินโครงสร้าง การรับน้ำหนัก การเดิน การบิดของข้อเท้า รวมถึงความเสี่ยงโรคในอนาคต

บทความนี้จะพาคุณเข้าใจอย่างลึกซึ้งแบบง่าย ๆ ว่าการตรวจสุขภาพเท้าที่ “ถูกต้องตามหลักแพทย์” ต้องตรวจอะไรบ้าง ใช้เวลาไม่นาน และสามารถช่วยป้องกันอาการเรื้อรังที่อาจส่งผลกระทบกับชีวิตประจำวันของคุณในระยะยาว


1) ทำไมการตรวจสุขภาพเท้าจึงสำคัญกว่าที่คิด?

คนทั่วไปอาจคิดว่า “ปัญหาเท้าเป็นเรื่องเล็ก” แต่แท้จริงแล้ว เท้าเป็นรากฐานของระบบโครงสร้างทั้งหมด ลองคิดง่าย ๆ ว่า ถ้าตึกฐานทรุด แม้อาคารจะสวยเพียงใด สุดท้ายก็มีปัญหา เช่นเดียวกับการเดินและยืนในชีวิตประจำวัน

ผลกระทบของเท้าผิดปกติ ได้แก่:

  • ปวดฝ่าเท้า / ส้นเท้าอักเสบ
  • ปวดเข่าเรื้อรัง
  • เจ็บสะโพก
  • ปวดหลังช่วงล่าง
  • ขาโก่ง เข่าเบี้ยว
  • กล้ามเนื้อเอ็นร้อยหวายตึงเรื้อรัง

ผู้ป่วยหลายรายรักษาหลังหรือเข่ามานาน แต่ไม่เคยตรวจสุขภาพเท้าเลย ทั้งที่ “เท้าคือจุดเริ่มต้นของการเดินทั้งหมด” การตรวจเท้าปีละหนึ่งครั้งจึงเป็นหนึ่งในการป้องกันปัญหาสุขภาพระยะยาวที่คุ้มค่าที่สุด


2) ตรวจสุขภาพเท้า ต้องตรวจอะไรบ้าง? (Expert Explanation)

การตรวจเท้าที่ถูกต้องประกอบด้วยองค์ประกอบหลักดังนี้:

1) ตรวจโครงสร้างเท้า (Foot Structure)

ใช้ดูว่าคุณมี:

  • เท้าแบน (Flat Foot)
  • เท้าแอ่น (High Arch)
  • เท้าบิดเข้า (Overpronation)
  • เท้าบิดออก (Supination)

ปัญหาเหล่านี้มีผลต่อการเดิน การวิ่ง และการรับน้ำหนักทั้งหมด

2) ตรวจรูปเท้าและนิ้วเท้า

เช็กอาการที่หลายคนมองข้าม เช่น:

  • นิ้วหัวแม่เท้าเอียง (Hallux Valgus)
  • นิ้วเท้าค้อน (Hammer Toe)
  • ตาปลา / หนังด้านผิดปกติ
  • ส้นเท้าแตกเรื้อรัง

3) ตรวจการลงน้ำหนัก (Foot Pressure Analysis)

เป็นการตรวจด้วยเครื่องสแกนฝ่าเท้าแบบ 3 มิติ เพื่อดูว่าเท้าของคุณลงน้ำหนักส่วนไหนมากเกินไป เช่น กดฝ่าเท้าด้านหน้าเกินไป ส่งผลให้เกิดปวดปลายเท้า หรือกดส้นเท้าหนักเกินจนเกิดส้นเท้าอักเสบ

4) ตรวจรูปแบบการเดิน (Gait Analysis)

แพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญจะประเมินการเดิน เช่น:

  • ก้าวช้า/เร็วผิดปกติ
  • สะโพกเอียง
  • เข่าบิดเวลาเดิน
  • ลงส้นแรงเกินไป
  • เดินปลายเท้าแบะหรือหุบ

5) ตรวจข้อต่อและความยืดหยุ่นของเท้า

ความตึงของกล้ามเนื้อ (เช่น เอ็นร้อยหวาย) มีผลอย่างมาก การตึงเล็กน้อยอาจทำให้เท้าและเข่าทำงานผิดรูปทันที

6) ตรวจผิวหนัง ฝ่าเท้า เล็บ

สำคัญมากโดยเฉพาะผู้สูงอายุหรือผู้ป่วยเบาหวาน เพราะแผลเล็ก ๆ ที่เท้าอาจกลายเป็นแผลเรื้อรังได้


3) Insight ลึก ๆ ที่หลายคนไม่เคยรู้เกี่ยวกับสุขภาพเท้า (Deep Insights)

สิ่งที่น่าสนใจคือ ปัญหาเท้าส่วนใหญ่ไม่ได้เกิดจาก “เท้า” อย่างเดียว แต่เกี่ยวกับพฤติกรรมชีวิตประจำวัน เช่น:

  • การใส่รองเท้าไม่เหมาะกับรูปเท้า
  • การยืนในท่าเดิมนานเกินไป
  • การลงน้ำหนักผิด เพราะความเคยชิน
  • กล้ามเนื้อสะโพก–เข่า–น่องอ่อนแรง
  • น้ำหนักตัวมาก ทำให้เท้ารับภาระหนักเกิน

แพทย์เวชศาสตร์การกีฬาอธิบายว่า เท้าไม่ได้ทำงานอย่างโดดเดี่ยว แต่เชื่อมโยงแบบลูกโซ่ตั้งแต่ข้อเท้า เข่า สะโพก จนถึงหลัง ดังนั้นการตรวจเท้าจึงเป็นเหมือนการตรวจ “ศูนย์กลางของระบบการเคลื่อนไหวทั้งหมด”


4) Mini Case Study: ผู้หญิงวัยทำงานที่ปวดเข่าเรื้อรัง แต่ต้นเหตุอยู่ที่ “เท้า”

คุณแอน อายุ 34 ปี ทำงานบัญชี ต้องเดินไป–มาภายในออฟฟิศและยืนสแกนเอกสารนานหลายชั่วโมง มีอาการปวดเข่าเรื้อรังมานานกว่า 6 เดือน ลองรักษาหลายแบบแต่ไม่ดีขึ้น

เมื่อไปตรวจสุขภาพเท้า พบว่า:

  • เท้าแบนระดับปานกลาง
  • ขาเอียงเข้าเล็กน้อยเวลายืน
  • รับน้ำหนักมากที่ฝ่าเท้าด้านใน

หลังจากใช้แผ่นรองรองเท้าที่ปรับให้เหมาะกับรูปเท้า และปรับรองเท้าให้ซัพพอร์ตดีขึ้น อาการปวดเข่าลดลงกว่า 70% ในเวลา 8 สัปดาห์

เคสนี้แสดงให้เห็นชัดว่า “ต้นเหตุของอาการเจ็บไม่ได้อยู่ที่จุดที่เจ็บเสมอไป”


5) วิธีตรวจสุขภาพเท้าแบบง่าย ๆ ที่ทำได้ด้วยตัวเอง

✔ 1) ทดสอบรูปเท้าด้วยวิธี Wet Test

เพียงเหยียบเท้าลงบนกระดาษหลังจากทำเท้าเปียก ก็สามารถดูได้ว่าคุณมีเท้าแบนหรือเท้าแอ่น

✔ 2) เช็กการสึกของรองเท้า

รองเท้าสึกด้านไหน → เท้าคุณลงน้ำหนักด้านนั้นหนักเกินไป

✔ 3) สำรวจอาการเจ็บเล็ก ๆ ที่เท้า

เช่น เจ็บส้นตอนตื่นนอน เจ็บปลายเท้าเวลาใส่รองเท้า

✔ 4) ถ่ายวิดีโอการเดิน

ตั้งมือถือถ่ายจากด้านหลัง เดิน 7–10 ก้าว จะเห็นว่าเท้าบิดเข้าหรือออกผิดปกติหรือไม่

✔ 5) ใช้รองเท้าและพื้นรองเท้าที่ซัพพอร์ตเท้า

ควรเลือกทรงรองเท้าที่ไม่บีบนิ้ว และพื้นรองเท้าที่รองรับส่วนอุ้งเท้า


6) ข้อดี–ข้อจำกัด และความเข้าใจผิดเรื่องการตรวจสุขภาพเท้า

ข้อดี

  • ช่วยป้องกันอาการเรื้อรังตั้งแต่เนิ่น ๆ
  • ลดความเสี่ยงการปวดเข่า–หลัง
  • ช่วยปรับท่าทางการเดินให้ดีขึ้น
  • ช่วยให้เลือกซื้อรองเท้าได้ดีขึ้น
  • ระบุสัญญาณเตือนโรคเท้า เช่น เบาหวาน

ความเข้าใจผิด

“เท้าผิดรูปก็ปล่อยไป ไม่ได้ปวดไม่ต้องตรวจ”

จริง ๆ แล้ว เท้าผิดรูปจะส่งผลกระทบในระยะยาว แม้ตอนนี้ยังไม่ปวด

“รองเท้าดี ๆ แก้ได้ทุกอย่าง”

รองเท้าเป็นเพียงส่วนหนึ่ง การตรวจเท้าและออกแบบการลงน้ำหนักสำคัญกว่า

“ปวดเข่า–หลัง ไม่เกี่ยวกับเท้า”

ในทางการแพทย์ ปัญหาเข่า–หลัง เกี่ยวข้องกับเท้ามากกว่า 60% ของเคส


7) FAQs

ตรวจสุขภาพเท้าควรตรวจบ่อยแค่ไหน?

ปีละ 1 ครั้ง หรือทุก 6 เดือนในผู้ที่มีอาการหรือใช้งานเท้าหนัก

เท้าแบนต้องรักษาไหม?

ขึ้นอยู่กับอาการ แต่ควรตรวจเพื่อป้องกันเข่าและหลังพังในอนาคต

เด็กต้องตรวจสุขภาพเท้าด้วยไหม?

ควรตรวจเพราะรูปเท้าเด็กเปลี่ยนได้เร็ว และส่วนมากไม่รู้ตัวเมื่อมีปัญหา

ตรวจสุขภาพเท้าเจ็บไหม?

ไม่เจ็บ เป็นการประเมินท่าทางและโครงสร้างเป็นหลัก


บทสรุป

การตรวจสุขภาพเท้าเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม เพราะเท้าคือฐานรากของระบบโครงสร้างทั้งหมด การตรวจเพียงปีละครั้งสามารถช่วยให้คุณป้องกันอาการปวดเรื้อรัง ปรับท่าทางการเดิน และลดความเสี่ยงโรคในอนาคตได้อย่างมหาศาล

การดูแลเท้าคือการดูแลสุขภาพทั้งร่างกาย—เริ่มต้นง่าย ๆ ตั้งแต่วันนี้

 

สนใจตัดรองเท้าสุขภาพกับทีมผู้เชี่ยวชาญ?
เราคือผู้นำด้านรองเท้าเพื่อสุขภาพที่มีประสบการณ์กว่า 10 ปี พร้อมวิเคราะห์โครงสร้างเท้าและออกแบบรองเท้าตามสรีระของคุณโดยเฉพาะ
✅ วัดเท้า 3D
✅ รับรองโดยนักกายภาพ
✅ ออกแบบทันสมัย
ติดต่อเพื่อปรึกษาฟรี คลิกที่นี่

“นึกถึงสุขภาพเท้า นึกถึง TALON”  นะคะหากคุณไม่เคยตรวจสุขภาพเท้า แนะนำให้ มาที่ ศูนย์สุขภาพเท้า พระราม 2 สอบถาม และนัดตรวจ กับหมอเฉพาะทางเท้า ซึ่งมีเพียง 2 คนในไทย รวมถึงมีสินค้ารองเท้าสุขภาพสั่งตัดพร้อมจำหน่ายและบริการ โทร 028963800 หรือ add Line:@talon หรือคลิก https://lin.ee/xIQUSV3

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *