คู่มือดูแลสุขภาพเท้าสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน
รู้ลึกทุกแง่มุม เพื่อป้องกันแผลเรื้อรังและภาวะแทรกซ้อนร้ายแรง
Table of Content
-
ทำไมผู้ป่วยเบาหวานต้องใส่ใจ “สุขภาพเท้า”
-
ความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับเท้าของผู้ป่วยเบาหวาน
-
วิธีตรวจสุขภาพเท้าด้วยตนเอง
-
เคล็ดลับการดูแลสุขภาพเท้าในชีวิตประจำวัน
-
การเลือกใช้รองเท้าและถุงเท้าที่เหมาะสม
-
สัญญาณอันตรายที่ห้ามมองข้าม
-
เมื่อต้องพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
-
ผลิตภัณฑ์และบริการแนะนำสำหรับดูแลเท้าเบาหวาน
-
บทส่งท้าย: เท้าที่ดีคือชีวิตที่ดีกว่า
1. ทำไมผู้ป่วยเบาหวานต้องใส่ใจ “สุขภาพเท้า”
ผู้ป่วยเบาหวานมักมีภาวะปลายประสาทเสื่อม (Peripheral Neuropathy) และระบบไหลเวียนเลือดบริเวณปลายเท้าที่ลดลง ส่งผลให้มีความเสี่ยงต่อการเกิดแผลเรื้อรังหรือแผลที่ไม่รู้สึกเจ็บ หากไม่ได้รับการดูแลอย่างถูกต้อง อาจนำไปสู่การติดเชื้อรุนแรง และอาจถึงขั้นต้องตัดเท้าได้
ข้อมูลจากสมาคมเบาหวานแห่งประเทศไทยระบุว่า กว่า 15% ของผู้ป่วยเบาหวานมีโอกาสเกิดแผลที่เท้าอย่างน้อย 1 ครั้งในชีวิต
2. ความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับเท้าของผู้ป่วยเบาหวาน
-
ปลายประสาทเสื่อม: ทำให้ไม่รู้สึกเจ็บหรือร้อนเย็น
-
เลือดไหลเวียนไม่ดี: ทำให้แผลหายช้า
-
ติดเชื้อง่าย: โดยเฉพาะเชื้อราหรือแบคทีเรีย
-
เกิดแผลเรื้อรัง: จากรองเท้ากัด เล็บกดทับ หรือการเดินเท้าเปล่า
3. วิธีตรวจสุขภาพเท้าด้วยตนเอง
การตรวจเท้าทุกวันสามารถช่วยป้องกันปัญหาใหญ่ได้ ดังนี้:
-
ตรวจรอยแดง แผล พอง หรือจุดที่ผิดปกติ
-
เช็กเล็บว่ามีรอยขบหรือหนองหรือไม่
-
ลูบเท้าเพื่อเช็กการรับสัมผัส
-
ใช้กระจกส่องฝ่าเท้า หากมองไม่เห็น
✅ แนะนำให้ตรวจเท้าทุกวัน โดยเฉพาะก่อนนอน
4. เคล็ดลับการดูแลสุขภาพเท้าในชีวิตประจำวัน
-
ล้างเท้าทุกวัน ด้วยสบู่อ่อนๆ และน้ำอุณหภูมิพอดี
-
เช็ดให้แห้งโดยเฉพาะระหว่างนิ้วเท้า เพื่อป้องกันเชื้อรา
-
ทาโลชั่น บริเวณส้นเท้าแต่หลีกเลี่ยงบริเวณนิ้ว
-
ตัดเล็บให้ตรง อย่าตัดสั้นเกินหรือแคะเล็บ
-
หลีกเลี่ยงการเดินเท้าเปล่า แม้ในบ้าน
-
ไม่ใช้แผ่นแปะแผลหรือมีดตัดหนังแข็งเอง
5. การเลือกใช้รองเท้าและถุงเท้าที่เหมาะสม
รองเท้าสำหรับผู้ป่วยเบาหวานควร:
-
มีพื้นรองรับแรงกระแทก
-
ไม่มีตะเข็บแข็งที่อาจเสียดสีเท้า
-
กว้างพอไม่บีบหน้าเท้าหรือปลายนิ้ว
-
มีช่องระบายอากาศ
ถุงเท้าควร:
-
ไม่มีตะเข็บบริเวณนิ้ว
-
ทำจากผ้านุ่ม ระบายอากาศดี
-
ไม่มีความรัดแน่นบริเวณข้อเท้า
⭐ แบรนด์รองเท้าสุขภาพอย่าง Talon หรือ Scholl มีรุ่นรองรับเท้าผู้ป่วยเบาหวานโดยเฉพาะ
6. สัญญาณอันตรายที่ห้ามมองข้าม
หากพบอาการเหล่านี้ ควรรีบพบแพทย์ทันที:
-
แผลที่ไม่หายภายใน 7 วัน
-
สีผิวบริเวณเท้าหรือเล็บเปลี่ยน
-
กลิ่นเหม็นผิดปกติ
-
เท้าร้อน บวมแดง
-
มีหนอง หรือรู้สึกชาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
7. เมื่อต้องพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
ผู้ป่วยเบาหวานควร เข้ารับการตรวจสุขภาพเท้าอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง กับแพทย์เฉพาะทาง หรือพยาบาลเบาหวาน เพื่อประเมินความเสี่ยง และรับคำแนะนำเฉพาะตัว เช่น:
-
การตรวจเส้นเลือดเท้า (ABI)
-
การประเมินความรู้สึกสัมผัส
-
การเลือกอุปกรณ์รองรับแรงกด (Insole)
8. ผลิตภัณฑ์และบริการแนะนำสำหรับดูแลเท้าเบาหวาน
เพื่อเสริมการดูแลเท้าอย่างครบวงจร ลองพิจารณาผลิตภัณฑ์และบริการต่อไปนี้:
สินค้าแนะนำ:
-
รองเท้าสุขภาพสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน – มีพื้นนุ่ม ป้องกันแรงกระแทก
-
ถุงเท้าเบาหวานไร้ตะเข็บ – ลดการเสียดสี
-
โลชั่นเฉพาะสำหรับเท้าเบาหวาน – ป้องกันผิวแห้งแตก
บริการเสริม:
-
โปรแกรมตรวจสุขภาพเท้ารายปี
-
คลินิกดูแลแผลเท้าเบาหวาน
-
บริการตัดเล็บเท้าและดูแลเท้าโดยผู้เชี่ยวชาญ
หากคุณกำลังมองหารองเท้าสุขภาพที่ออกแบบเฉพาะสำหรับเท้าเบาหวาน สามารถดูสินค้าเพิ่มเติมได้ที่ [ชื่อแบรนด์ / เว็บไซต์]
9. บทส่งท้าย: เท้าที่ดีคือชีวิตที่ดีกว่า
การดูแลเท้าไม่ใช่เรื่องเล็กสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน เพราะเท้าที่ถูกละเลยเพียงเล็กน้อย อาจนำไปสู่ปัญหาที่ใหญ่โตเกินเยียวยาได้ การใส่ใจ ตรวจเช็ก และใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมจะช่วยให้คุณสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมั่นใจ เดินก้าวต่อไปโดยไม่สะดุด ด้วย “เท้าที่ปลอดภัย”
หากต้องการปรึกษาเรื่องรองเท้าสุขภาพเฉพาะสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน หรือรับคำแนะนำเรื่องบริการดูแลเท้าแบบมืออาชีพ สามารถติดต่อเราได้เลย พร้อมให้คำแนะนำโดยทีมผู้เชี่ยวชาญ ❤️
รองเท้าสุขภาพเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งในการรักษาสุขภาพเท้าและขาของคุณ การเลือกซื้อรองเท้าที่เหมาะสมและดูแลรักษาอย่างถูกต้องสามารถช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดปัญหาสุขภาพต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และทำให้คุณสามารถเดินและยืนได้อย่างสะดวกสบายในทุกๆ วัน
“นึกถึงสุขภาพเท้า นึกถึง TALON” นะคะหากคุณไม่เคยตรวจสุขภาพเท้า แนะนำให้ มาที่ ศูนย์สุขภาพเท้า พระราม 2 สอบถาม และนัดตรวจ กับหมอเฉพาะทางเท้า ซึ่งมีเพียง 2 คนในไทย รวมถึงมีสินค้ารองเท้าสุขภาพสั่งตัดพร้อมจำหน่ายและบริการ โทร 028963800 หรือ add Line:@talon หรือคลิก https://lin.ee/xIQUSV3