ไมโครไฟเบอร์ เทคโนโลยีที่เท้าทุกคู่ตกหลุมรัก
ไมโครไฟเบอร์ หลายคนอาจคุ้นหูกับคำคำนี้ แต่เวลาที่นึกถึงวัสดุทำรองเท้าที่มีคุณภาพสูง คนส่วนใหญ่ก็กลับนึกถึงรองเท้าที่ทำจากหนัง เพราะคิดว่านอกจากลวดลายพื้นผิวที่เป็นเอกลักษณ์แล้ว รองเท้าที่ทำจากหนังแท้ยังให้สัมผัสที่แตกต่าง และมีความแข็งแรง ทนทานอีกด้วย แต่ทราบหรือไม่ว่าเท้าของเราต้องเจอกับอะไรบ้างเมื่อต้องใส่รองเท้าหนัง สัมผัสที่ค่อนข้างแข็ง ผิวสัมผัสหยาบเมื่อแรกใส่ ต้องใช้งานไปสักพักใหญ่เลยกว่าหนังจะนุ่มขึ้น แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับประเภทและเกรดของหนังสัตว์ที่ใช้อีกด้วย ซึ่งบางชนิดก็จะไม่นุ่มหรืออ่อนตัวเลยไม่ว่าจะใช้งานนานแค่ไหน ทำให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวเท้าเราได้ง่าย อาจเกิดเป็นแผลรองเท้ากัด เป็นหนอง หรือลุกลามติดเชื้อได้ในผู้ป่วยเบาหวาน และยังเสี่ยงต่ออาการกระดูกปูดนิ้วเท้าเก เพราะใส่รองเท้าที่ไม่ยืดหยุ่นแถมบีบรัดเท้านั่นเอง
และอย่างที่ทราบกันดีว่ารองเท้าที่ทำจากหนังแท้มักมีน้ำหนักพอสมควร ที่สำคัญคือดูดซับแรงกระแทกได้จำกัด นั่นหมายถึงหากเราใส่รองเท้าที่ทำจากหนังแท้ทุกวัน เท้าของเราต้องรับบทหนักในการแบกรับน้ำหนักทั้งร่างกายเรารวมกับน้ำหนักของรองเท้าหนังไว้ตลอดระยะเวลาที่เราสวมใส่ ทำให้เวลายืนหรือเดินไปสักพักก็จะเมื่อยเร็วกว่าปกติ และที่สำคัญ หนังแท้จะไม่สามารถรองรับแรงกระแทกเวลาเราลงน้ำหนักขณะเดินได้มากนัก ทำให้ผู้สวมใส่รองเท้าหนังแล้วต้องเดินหรือยืนนานๆ จะมีอาการเท้าชา ปวดโคนนิ้ว และปวดฝ่าเท้ามาก
นอกจากนี้ หนังแท้ทั่วไปมักมีลักษณะพิเศษอยู่อย่างหนึ่งคือการช่วยเก็บอุณหภูมิไว้กับตัว เพราะด้วยธรรมชาติของหนังสัตว์คือการปกป้องและเก็บกัก ไม่ใช่การระบายออก ซึ่งถ้าเป็นในภูมิอากาศที่หนาวเย็นก็จะช่วยป้องกันเท้าได้ดี แต่กับประเทศที่มีอากาศร้อนชื้นอย่างบ้านเรา ลักษณะพิเศษนี้กลับเป็นผลเสียต่อสุขภาพเท้ามากกว่าค่ะ เพราะทำให้เท้ามีเหงื่อออกเยอะ มีกลิ่นเหม็นอับ และอาจเป็นเชื้อราที่เท้าได้ด้วยค่ะ
เชื่อว่าอ่านถึงตรงนี้ หลายคนคงเริ่มมีคำถามในใจว่าแล้วมันจะมีวัสดุไหนที่จะนำมาทำรองเท้าได้สวยงามมีเอกลักษณ์เหมือนหนัง มีความแข็งแรงทนทานเหมือนหนัง แต่น้ำหนักเบา ระบายอากาศ และช่วยรักษาสุขภาพเท้า ข่าวดีก็คือปัจจุบันในประเทศชั้นนำด้านการผลิตรองเท้าทั้งอเมริกา ยุโรป และเอเชีย ต่างก็หันมาใช้วัสดุชนิดหนึ่งในการผลิตรองเท้า นวัตกรรมของวงการรองเท้านี้ถูกเรียกว่า “ไมโครไฟเบอร์” (Micro Fiber Leather) ซึ่งได้รับการยอมรับจากทั่วโลกในด้านคุณสมบัติที่เหนือกว่าหนังแท้ และได้ชื่อว่าเป็นวัสดุที่เท้าทุกคู่ในโลกตกหลุมรักตั้งแต่แรกใส่ค่ะ
ไมโครไฟเบอร์คืออะไร? ทำไมจึงเหมาะกับการผลิตเป็นรองเท้าเพื่อสุขภาพ
ไมโครไฟเบอร์ หรือ Micro Fiber Leather คือหนังสังเคราะห์คุณภาพดี สร้างขึ้นจากเส้นใยโพลีเอสเตอร์ เส้นใยโพลีอะไมด์และโพลียูรีเทนคุณภาพเยี่ยมผสมเข้าด้วยกันเพื่อเลียนแบบโครงสร้างหนัง เทคนิคที่ใช้ในการผลิตไมโครไฟเบอร์ทำให้ผลิตภัณฑ์มีโครงสร้างเช่นเดียวกับหนังแท้ แต่มีความยืดหยุ่นและมีความนิ่มมากกว่า แต่มีความแข็งแรง ทนทาน ไม่ได้ด้อยไปกว่าหนังแท้เลย
แม้ในด้านโครงสร้างทางชีวภาพ ไมโครไฟเบอร์จะเลียนแบบหนังแท้ แต่การพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์ทำให้ไมโครไฟเบอร์มีคุณสมบัติทางชีวภาพและทางเคมีที่เหนือกว่าหนังแท้อย่างเห็นได้ชัด และเหมาะอย่างยิ่งในการนำมาใช้เป็นวัสดุทำรองเท้าเพื่อสุขภาพ คุณสมบัติเหล่านี้ ได้แก่
1. ไมโครไฟเบอร์มีลักษณะที่ดีกว่าหนังธรรมชาติ
หนังแท้มีความสวยงามที่ลวดลายอันเป็นเอกลักษณ์ในแต่ละผืนตามธรรมชาติ แต่เพราะเป็นธรรมชาติสร้าง จึงทำให้โครงสร้างหนังในแต่ละส่วนแตกต่างกันไปด้วย อาทิ ความหนาบาง ความยืดหยุ่น ความสามารถในการกระจายน้ำหนักและอุณหภูมิ ฯลฯ ในขณะที่ไมโครไฟเบอร์มีสัดส่วนโครงสร้างที่เท่ากันตลอดทั้งผืน ทำให้มีพื้นผิวและลวดลายสม่ำเสมอ จึงสามารถคงประสิทธิภาพสูงสุดไว้ได้และสวยเสมอไม่ว่าจะตัดส่วนไหนมาใช้ก็ตาม
2. ไมโครไฟเบอร์มีความยืดหยุ่นมากกว่าหนังแท้
โครงสร้างความยืดหยุ่นของหนังสัตว์จะหมดไปเมื่อสัตว์ตายลง เมื่อนำหนังสัตว์นั้นมาใช้งานความยืดหยุ่นจะมีน้อยมากเพื่อเทียบกับไมโครไฟเบอร์ที่ประดิษฐ์ขึ้นมาให้โครงสร้างมีความยืดหยุ่นสูง รับน้ำหนักได้ดี ทำให้รองเท้าที่ตัดเย็บจากไมโครไฟเบอร์จึงกระชับรับกับรูปเท้า แม้ว่ารูปเท้าจะมีขนาดใหญ่-เล็ก หรือผิดรูปไปบ้าง เช่น หลังเท้าโก่ง เท้าแบบ นิ้วเก ก็ไม่เป็นปัญหาแต่อย่างใด ต่างจากหนังแท้ที่คงรูป ไม่ยืดหยุ่น จึงไม่เหมาะอย่างยิ่งกับผู้ที่มีปัญหาสุขภาพเท้า
3. ไมโครไฟเบอร์มีน้ำหนักเบากว่าหนังแท้มาก
หนังแท้จะมีน้ำหนักมากถึงแม้จะผ่านการฟอกแล้วก็ตาม เพราะเต็มไปด้วยโครงสร้างโปรตีน ไฟเบอร์ และคอลลาเจนตามธรรมชาติ ซึ่งจะหนักมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับว่าเป็นหนังของสัตว์ประเภทไหน เช่น หนังวัว หนังควาย ก็จะมีน้ำหนักมากกว่าหนังแกะ เป็นต้น รองเท้าหนังแท้จึงมีน้ำหนักค่อนข้างมาก ต่างจากรองเท้าที่ผลิตจากไมโครไฟเบอร์ที่มีน้ำหนักเบากว่าหนังแท้ถึง 30-50% เมื่อนำมาเป็นวัสดุผลิตรองเท้า จึงได้รองเท้าที่เบา สวมใส่สบาย มีความคล่องตัวสูง ทั่วโลกนิยมนำมาตัดเย็บเป็นรองเท้าเพื่อสุขภาพเพราะเท้าจะได้ไม่ต้องรับภาระหนักมากนัก ทำให้ผู้สวมใส่รองเท้าจากไมโครไฟเบอร์รู้สึกสบาย สามารถเคลื่อนไหวได้อย่างคล่องแคล่ว เป็นอิสระ เหมือนไม่ได้สวมใส่รองเท้า
4. ไมโครไฟเบอร์ให้สัมผัสนิ่มกว่าหนังแท้
คนที่ซื้อรองเท้าหนังแท้มักมีประโยคติดปากติดหูว่า “ทนใส่ไปก่อนเดี๋ยวมันก็ยืด เดี๋ยวมันก็นิ่ม” หรือ “ทนไปก่อนเดี๋ยวพอมันยืดตัวออกก็ไม่กัดแล้ว” ประเด็นสำคัญคือ สุขภาพเท้าของเราไม่ใช่เรื่องที่รอให้ปัญหาหายไปเองได้ค่ะ กว่าจะถึงตอนที่รองเท้าหนังแท้นิ่มหรือยืดพอจะไม่กัดเท้า สุขภาพเท้าเราก็คงจะพังไปแล้วแน่นอน เพราะการใส่รองเท้าที่แข็งและไม่ยืดหยุ่น ส่งผลกระทบโดยตรงต่อสุขภาพเท้า สถานเบาก็รองเท้ากัดเป็นแผลเรื้อรัง เป็นตาปลา สถานหนักคือกระดูกปูด นิ้วเท้าปีน นิ้วเท้าเก อาจส่งผลต่อเส้นประสาทที่ขา หลัง และบุคลิกภาพการเดิน แต่ไมโครไฟเบอร์ที่ดี จะผลิตจากเส้นใยโพลีเอสเตอร์ เส้นใยโพลีอะไมด์และโพลียูรีเทนคุณภาพเยี่ยม ซ้อนกันหลายต่อหลายชั้น เมื่อนำมาตัดเย็บเป็นรองเท้าจึงให้สัมผัสที่นุ่มสบาย นิ่มเท้าโดยไม่ต้องทนเจ็บไปนานๆ ก่อน
5. ไมโครไฟเบอร์มีความทนทาน ใช้งานได้นานมากกว่า
ในขณะที่หนังแท้มีโครงสร้างที่ไม่ยืดหยุ่นมากนัก จึงทำให้เป็นรอยขีดข่วนหรือฉีกขาดได้ง่ายหากไม่ผ่านการเคลือบหลาย ๆ ชั้น และเมื่อใช้งานไปนาน ๆ หนังแท้ก็จะเริ่มเปื่อยยุ่ย สีซีดจางลง วัสดุเคลือบอาจจะหลุดลอกออกมา ทำให้ความสวยงามลดลงหรือหมดไป ในขณะที่ไมโครไฟเบอร์ผ่านการทดสอบแล้วพบว่าทนต่อแรงดึงหรือยืดได้มากกว่าโดยไม่ฉีกขาด ทนต่อการเสื่อมสภาพ แม้ใช้ไปนานๆ ผิวก็ไม่ซีดจางแบบหนังสัตว์ ถึงจะผ่านไปหลายปีก็ไม่เปื่อยยุ่ย อายุการใช้งานนานตั้งแต่ 5 – 15 ปี (ขึ้นอยู่กับการดูแลรักษาด้วย)
6. ไมโครไฟเบอร์ดูแลรักษาง่ายกว่า
เพราะมีคุณสมบัติทนความร้อนได้ดี โดนน้ำก็ไม่เป็นไร ทนกรด ทนด่าง การทำความสะอาดก็ง่ายมาก เพียงใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดทำความสะอาด คราบสกปรกทั่วไปก็หายเกลี้ยง หรือถ้าต้องการทำความสะอาดครั้งใหญ่ ก็สามารถใช้น้ำสบู่เจือจางกับแปรงขนนุ่มแปรงเบาๆได้ นำไปผึ่งลมให้แห้ง เท่านี้ก็สะอาด สวยเหมือนใหม่
7. ไมโครไฟเบอร์ใส่สบาย ระบายอากาศได้ดีกว่าหนังแท้
หนังแท้มักมีกลิ่นหนังตามธรรมชาติแม้จะผ่านการฟอกแล้วก็ตาม ประกอบกับโครงสร้างของหนังแท้ที่ไม่โปร่ง จึงเก็บกักทั้งความร้อนและความชื้น ผู้ที่สวมใส่รองเท้าหนังแท้จึงมักประสบปัญหาเชื้อราหรือกลิ่นเท้าแต่ไมโครไฟเบอร์ถูกออกแบบมาให้มีความพิเศษทางโครงสร้าง ที่ช่วยในเรื่องของการระบายอากาศ ระบายความร้อน และระบายความอับชื้น ได้อย่างดีเยี่ยม เมื่อนำมาผลิตรองเท้าจึงสวมใส่สบาย เย็น ไม่มีเหงื่อออกที่เท้ามากนัก และไม่อับชื้นเลย จึงช่วยป้องกันโรคเชื้อราที่เท้า และแก้ไขปัญหาเท้าเหม็น มีกลิ่นเท้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
8. ไมโครไฟเบอร์เป็นมิตรต่อธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ไมโครไฟเบอร์ถือเป็นผลิตภัณฑ์สีเขียวในศตวรรษที่ 21 ได้รับการยอมรับว่าเป็น Genuine Vegan Leather และองค์กรอนุรักษ์สัตว์อย่าง PETA (People for the Ethical Treatment of Animals) ก็ชื่นชมวัสดุชนิดนี้ว่า “ไม่ทารุณสัตว์” และสอดคล้องกับแนวคิดมังสวิรัติแบบเคร่งที่ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น เพราะนอกจากจะไม่ต้องเบียดเบียนสัตว์แล้ว กระบวนการผลิตยังไม่ได้ใช้สารเคมีที่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมเหมือนที่การฟอกหนังสัตว์ทำอีกด้วย
9. ไมโครไฟเบอร์มีราคาถูกกว่าหนังแท้
ในหนังสัตว์แท้ 1 ผืน จะมีส่วนที่ดี สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้โดยไม่มีตำหนิเลยเพียง 55 – 80% เท่านั้น ทำให้การผลิตสินค้าสักอย่าง เช่น รองเท้า กระเป๋า จำเป็นต้องใช้หนังสัตว์แท้หลายผืน ต้นทุนการผลิตจึงสูง และทำให้ราคาขายสูงตามไปด้วย แต่ปัญหาเช่นนี้จะไม่เกิดกับไมโครไฟเบอร์ที่ตลอดทั้งผืนมีความสมบูรณ์เสมอกัน ในการผลิตจึงสามารถใช้งานได้ทั้งผืนและเหลือส่วนที่ตัดทิ้งน้อยมากๆ ทำให้ต้นทุนการผลิตต่ำกว่าหนังแท้ ราคาขายเมื่อเป็นสินค้าที่สมบูรณ์แล้วจึงถูกกว่าหนังแท้มาก ทั้งที่คุณภาพและความคุ้มค่ามีสูงกว่า
ด้วยคุณสมบัติพิเศษทั้งหมดที่กล่าวถึงข้างต้นนี้เอง จึงทำให้ไมโครไฟเบอร์เป็นที่นิยมไปทั่วโลก และได้รับการยอมรับว่าเป็นวัสดุแห่งปีที่ยอดเยี่ยมและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการนำมาใช้เป็นวัสดุผลิตสินค้าต่างๆ ทดแทนหนังแท้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในวงการรองเท้าเพื่อสุขภาพ แบรนด์ชั้นนำต่างๆ ของโลก ต่างก็หันมาใช้ไมโครไฟเบอร์เป็นวัสดุหลักในการผลิตทั้งนั้น
เช่นเดียวกับ Rebecca Lim’s รองเท้าเพื่อสุขภาพที่โด่งดังไปทั่วโลก ช่วยป้องกันปัญหาสุขภาพเท้าได้อย่างดีเยี่ยม โดยได้คิดค้นพัฒนาต่อยอดจากไมโครไฟเบอร์ที่คุณลักษณะยอดเยี่ยมอยู่แล้ว ให้มีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น จนกลายเป็น “นาโนไฟเบอร์” ที่ยกระดับประสิทธิภาพของไมโครไฟเบอร์ให้มากขึ้นเป็นเท่าตัวด้วยเทคโนโลยีนาโน ทำให้รองเท้าเพื่อสุขภาพของ Rebecca Lim’s มีคุณสมบัติพิเศษ ได้แก่
- วัสดุหน้า ทำจาก Nano fiber Grade A นุ่ม ระบายอากาศ และทนทาน
- พื้นล่าง ทำจากวัสดุพิเศษ น้ำหนักเบา เหมาะกับผู้ที่ต้องเดินหรือยืนนานๆ ทำให้เท้าไม่ปวดหรือเมื่อยล้า
- พื้นรองเท้าออกแบบให้กันลื่น กันการสะดุด หกล้ม ได้ดี
- พื้นด้านในมีปุ่มเล็ก ๆ ออกแบบมาเพื่อให้กระตุ้นการไหลเวียนโลหิตบริเวณเท้า
- ช่วยปรับสมดุลร่างกายทำให้อวัยวะต่างๆ ทำงานได้ดี
- ไม่ว่าจะยืน หรือเดินนานแค่ไหน ก็ไม่ปวดเมื่อย
- พื้นรองเท้านุ่มสบาย โค้งเว้าตามสรีระที่ถูกต้อง
- รับน้ำหนัก และ กระจายน้ำหนักเหมาะกับเท้าปกติ และช่วยรักษาอาการเท้าแบน
วันนี้ TALON นำเข้าพร้อมส่งตรงถึงมือคุณแล้วที่แรก และ ที่เดียวในประเทศไทย!!
ทดลองความพิเศษของ Rebecca Lim’s ได้แล้ววันนี้ที่ ICONSIAM
และอย่าลืมกดติดตาม facebook fanpage ของรองเท้าสุขเท้าสุขภาพ TALON เพื่อรับโปรโมชั่นใหม่
สอบถามรายละเอียดโปรโมชั่น
แอดLine@ ของ Talon ได้ที่นี่เลยค่ะ
👉 https://line.me/R/ti/p/%40ool5177g
foot clinic เปิดบริการ จันทร์-เสาร์ 8.30-17.30 น. Tel 02-896-3800