- เสริมสร้างหัวใจและหลอดเลือด: การเดินเป็นการออกกำลังกายแบบแอโรบิกที่ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือด ลดความดันโลหิต และลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด
- ควบคุมน้ำหนัก: การเดินเผาผลาญแคลอรีซึ่งช่วยในการควบคุมน้ำหนักและลดความเสี่ยงต่อโรคอ้วน
- ปรับปรุงสุขภาพจิต: การเดินช่วยลดความเครียดและภาวะซึมเศร้า โดยการปล่อยสารเอ็นโดรฟินในร่างกายทำให้รู้สึกดีและมีความสุข
- เสริมสร้างกล้ามเนื้อและกระดูก: การเดินช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อและกระดูก โดยเฉพาะบริเวณขาและสะโพก ทำให้ร่างกายแข็งแรงและลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคกระดูกพรุน
- ปรับปรุงการทำงานของระบบย่อยอาหาร: การเดินหลังรับประทานอาหารช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบย่อยอาหาร ลดความเสี่ยงต่อการเกิดกรดไหลย้อนและอาการท้องอืด
- เพิ่มพลังงาน: การเดินเป็นการออกกำลังกายที่ช่วยเพิ่มระดับพลังงาน ทำให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่าและสดชื่นตลอดวัน
- ช่วยในการนอนหลับ: การเดินช่วยปรับปรุงคุณภาพการนอนหลับ ทำให้นอนหลับได้ลึกและยาวนานยิ่งขึ้น
- ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด: ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน
ประโยชน์ต่อร่างกาย:
- เสริมสร้างกล้ามเนื้อและกระดูก: การเดินช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ โดยเฉพาะกล้ามเนื้อขา สะโพก และหน้าท้อง นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มความหนาแน่นของกระดูก ลดความเสี่ยงของโรคกระดูกพรุน
- ลดน้ำหนักและควบคุมน้ำหนัก: การเดินเป็นการออกกำลังกายที่ช่วยเผาผลาญแคลอรี่ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการลดน้ำหนักและควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม
- ลดความเสี่ยงโรคเรื้อรัง: การเดินช่วยลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรังต่างๆ เช่น โรคหัวใจและหลอดเลือด เบาหวานชนิดที่ 2 ความดันโลหิตสูง และบางชนิดของมะเร็ง
- เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน: การเดินช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้ร่างกายสามารถต่อสู้กับเชื้อโรคได้ดีขึ้น
- ปรับปรุงการทำงานของระบบทางเดินอาหาร: การเดินช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบทางเดินอาหาร ทำให้การย่อยอาหารและการขับถ่ายเป็นไปอย่างปกติ
- เพิ่มพลังงานและความสดชื่น: การเดินช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดและออกซิเจนไปยังเซลล์ต่างๆ ในร่างกาย ทำให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่าและมีพลังงานมากขึ้น
ประโยชน์ต่อจิตใจ:
- ลดความเครียดและความวิตกกังวล: การเดินช่วยกระตุ้นการหลั่งสารเอ็นดอร์ฟิน ซึ่งเป็นสารที่ช่วยลดความเครียดและความวิตกกังวล ทำให้รู้สึกผ่อนคลายและมีความสุขมากขึ้น
- บรรเทาอาการซึมเศร้า: การเดินเป็นประจำช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดภาวะซึมเศร้า และยังสามารถช่วยบรรเทาอาการของผู้ที่มีภาวะซึมเศร้าอยู่แล้วได้
- ปรับปรุงคุณภาพการนอนหลับ: การเดินช่วยให้หลับได้ง่ายขึ้นและหลับได้สนิทมากขึ้น
- เพิ่มความจำและสมาธิ: การเดินช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดไปยังสมอง ซึ่งช่วยปรับปรุงความจำและสมาธิ
- ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์: การเดินช่วยให้สมองปลอดโปร่งและผ่อนคลาย ซึ่งเป็นสภาวะที่เอื้อต่อการเกิดความคิดสร้างสรรค์
ข้อแนะนำ:
- เริ่มต้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป: หากคุณยังไม่เคยออกกำลังกายมาก่อน ควรเริ่มต้นด้วยการเดินช้าๆ ในระยะทางสั้นๆ แล้วค่อยๆ เพิ่มระยะเวลาและความเร็วในการเดินขึ้นตามลำดับ
- เดินให้ได้อย่างน้อย 30 นาทีต่อวัน: เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดจากการเดิน ควรเดินให้ได้อย่างน้อย 30 นาทีต่อวัน หรือ 150 นาทีต่อสัปดาห์
- เดินให้เป็นกิจวัตร: เพื่อให้การเดินเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน ควรหาเวลาเดินให้เป็นประจำทุกวัน เช่น เดินไปทำงาน เดินเล่นหลังอาหาร หรือเดินเล่นในสวนสาธารณะ
- หาเพื่อนร่วมเดิน: การเดินกับเพื่อนหรือคนในครอบครัวจะช่วยให้การเดินสนุกสนานมากขึ้น และยังเป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีอีกด้วย
การเดินเป็นกิจกรรมที่ง่ายและไม่ต้องใช้อุปกรณ์พิเศษใด ๆ สามารถทำได้ทุกวันและทุกที่ เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย
“นึกถึงสุขภาพเท้า นึกถึง TALON” นะคะหากคุณไม่เคยตรวจสุขภาพเท้า แนะนำให้ มาที่ ศูนย์สุขภาพเท้า พระราม 2 สอบถาม และนัดตรวจ กับหมอเฉพาะทางเท้า ซึ่งมีเพียง 2 คนในไทย รวมถึงมีสินค้ารองเท้าสุขภาพสั่งตัดพร้อมจำหน่ายและบริการ โทร 028963800 หรือ add Line:@talon หรือคลิก https://lin.ee/xIQUSV3