การเดินช่วยเรื่องสุขภาพอย่างไรได้บ้าง

การเดินมีประโยชน์ต่อสุขภาพอย่างไร
  1. เสริมสร้างหัวใจและหลอดเลือด: การเดินเป็นการออกกำลังกายแบบแอโรบิกที่ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือด ลดความดันโลหิต และลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด
  2. ควบคุมน้ำหนัก: การเดินเผาผลาญแคลอรีซึ่งช่วยในการควบคุมน้ำหนักและลดความเสี่ยงต่อโรคอ้วน
  3. ปรับปรุงสุขภาพจิต: การเดินช่วยลดความเครียดและภาวะซึมเศร้า โดยการปล่อยสารเอ็นโดรฟินในร่างกายทำให้รู้สึกดีและมีความสุข
  4. เสริมสร้างกล้ามเนื้อและกระดูก: การเดินช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อและกระดูก โดยเฉพาะบริเวณขาและสะโพก ทำให้ร่างกายแข็งแรงและลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคกระดูกพรุน
  5. ปรับปรุงการทำงานของระบบย่อยอาหาร: การเดินหลังรับประทานอาหารช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบย่อยอาหาร ลดความเสี่ยงต่อการเกิดกรดไหลย้อนและอาการท้องอืด
  6. เพิ่มพลังงาน: การเดินเป็นการออกกำลังกายที่ช่วยเพิ่มระดับพลังงาน ทำให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่าและสดชื่นตลอดวัน
  7. ช่วยในการนอนหลับ: การเดินช่วยปรับปรุงคุณภาพการนอนหลับ ทำให้นอนหลับได้ลึกและยาวนานยิ่งขึ้น
  8. ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด: ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน

ประโยชน์ต่อร่างกาย:

  • เสริมสร้างกล้ามเนื้อและกระดูก: การเดินช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ โดยเฉพาะกล้ามเนื้อขา สะโพก และหน้าท้อง นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มความหนาแน่นของกระดูก ลดความเสี่ยงของโรคกระดูกพรุน
  • ลดน้ำหนักและควบคุมน้ำหนัก: การเดินเป็นการออกกำลังกายที่ช่วยเผาผลาญแคลอรี่ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการลดน้ำหนักและควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม
  • ลดความเสี่ยงโรคเรื้อรัง: การเดินช่วยลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรังต่างๆ เช่น โรคหัวใจและหลอดเลือด เบาหวานชนิดที่ 2 ความดันโลหิตสูง และบางชนิดของมะเร็ง
  • เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน: การเดินช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้ร่างกายสามารถต่อสู้กับเชื้อโรคได้ดีขึ้น
  • ปรับปรุงการทำงานของระบบทางเดินอาหาร: การเดินช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบทางเดินอาหาร ทำให้การย่อยอาหารและการขับถ่ายเป็นไปอย่างปกติ
  • เพิ่มพลังงานและความสดชื่น: การเดินช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดและออกซิเจนไปยังเซลล์ต่างๆ ในร่างกาย ทำให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่าและมีพลังงานมากขึ้น

ประโยชน์ต่อจิตใจ:

  • ลดความเครียดและความวิตกกังวล: การเดินช่วยกระตุ้นการหลั่งสารเอ็นดอร์ฟิน ซึ่งเป็นสารที่ช่วยลดความเครียดและความวิตกกังวล ทำให้รู้สึกผ่อนคลายและมีความสุขมากขึ้น
  • บรรเทาอาการซึมเศร้า: การเดินเป็นประจำช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดภาวะซึมเศร้า และยังสามารถช่วยบรรเทาอาการของผู้ที่มีภาวะซึมเศร้าอยู่แล้วได้
  • ปรับปรุงคุณภาพการนอนหลับ: การเดินช่วยให้หลับได้ง่ายขึ้นและหลับได้สนิทมากขึ้น
  • เพิ่มความจำและสมาธิ: การเดินช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดไปยังสมอง ซึ่งช่วยปรับปรุงความจำและสมาธิ
  • ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์: การเดินช่วยให้สมองปลอดโปร่งและผ่อนคลาย ซึ่งเป็นสภาวะที่เอื้อต่อการเกิดความคิดสร้างสรรค์

ข้อแนะนำ:

  • เริ่มต้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป: หากคุณยังไม่เคยออกกำลังกายมาก่อน ควรเริ่มต้นด้วยการเดินช้าๆ ในระยะทางสั้นๆ แล้วค่อยๆ เพิ่มระยะเวลาและความเร็วในการเดินขึ้นตามลำดับ
  • เดินให้ได้อย่างน้อย 30 นาทีต่อวัน: เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดจากการเดิน ควรเดินให้ได้อย่างน้อย 30 นาทีต่อวัน หรือ 150 นาทีต่อสัปดาห์
  • เดินให้เป็นกิจวัตร: เพื่อให้การเดินเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน ควรหาเวลาเดินให้เป็นประจำทุกวัน เช่น เดินไปทำงาน เดินเล่นหลังอาหาร หรือเดินเล่นในสวนสาธารณะ
  • หาเพื่อนร่วมเดิน: การเดินกับเพื่อนหรือคนในครอบครัวจะช่วยให้การเดินสนุกสนานมากขึ้น และยังเป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีอีกด้วย

การเดินเป็นกิจกรรมที่ง่ายและไม่ต้องใช้อุปกรณ์พิเศษใด ๆ สามารถทำได้ทุกวันและทุกที่ เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย

“นึกถึงสุขภาพเท้า นึกถึง TALON”  นะคะหากคุณไม่เคยตรวจสุขภาพเท้า แนะนำให้ มาที่ ศูนย์สุขภาพเท้า พระราม 2 สอบถาม และนัดตรวจ กับหมอเฉพาะทางเท้า ซึ่งมีเพียง 2 คนในไทย รวมถึงมีสินค้ารองเท้าสุขภาพสั่งตัดพร้อมจำหน่ายและบริการ โทร 028963800 หรือ add Line:@talon หรือคลิก https://lin.ee/xIQUSV3